วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

LG เตรียมพัฒนา e-paper บางเท่ากระดาษเสร็จทันใช้ปลายปีนี้

เจ้าพ่อวงการ Monitor อย่าง LG มีแผนที่จะเตรียมนำเสนอนวัตกรรมใหม่
อย่าง e-paper ที่มีขนาดบางเฉียบ ให้เสร็จทันก่อนช่วงปลายปี 2010 นี้



โดยจะมีทั้งรุ่นขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว แบบ e-Book ทั่วไปสำหรับนักอ่านแบบ Hi-end
ที่ต้องการทางเลือกอื่นที่นอกเหนือไปจาก Kindle DX
และที่ขนาดหน้า 19 นิ้วที่สามารถดัดงอได้ราวกับว่าเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ทั่วไป
ซึ่งสามารถใช้งานเป็นหนังสือพิมพ์ออนไลน์หรือโปสเตอร์ดิจิตอลก็ได้
แต่จะคาดได้ว่าจะมีราคาสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน
โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดส่วนอื่นๆ LG e-paper ที่ว่านี้ออกมาแต่อย่างใด

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

SmartPad ภาพหลุด"แท็บเล็ต"โตชิบา

SmartPad


หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า โตชิบา (Toshiba)
กำลังจะออก"แท็บเล็ต"ไปได้แค่สองวัน
ล่าสุดภาพและชื่อของแท็บเล็ตดังกล่าวได้หลุดออกมาเผยแพร่บนเน็ตแล้ว
โดยเว็บไซต์ NotebookItalia อ้างว่า มันเป็นภาพของ SmartPad แท็บเล็ตแอนดรอยด์
ที่ทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ NVIDIA Tegra 2
และมีหน้าจอขนาด 10 นิ้วของ Toshiba


สำหรับภาพหลุดที่ออกมาล่าสุดแสดงให้เห็นถึง
อินเตอร์เฟซของปุ่มสัมผัสแบบ Android ที่ปรากฎบริเวณขอบจอ
ซึ่งได้แก่ Search, Back, Home และ Menu
นอกจากนี้ขอบด้านข้างยังปรากฎเว็บแคมด้านหน้า (front-facing webcam)
ตลอดจนด้านล่างยังมีลำโพงอีกด้วย ดีสวยงามน่าใช้ไม่ใช่เล่น

แต่ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะภาพที่หลุดออกมายังเผยให้เห็นอีกด้วยว่า
มันมีคอนเน็คเตอร์สำหรับต่อกับอุปกรณ์
อย่างเช่น docking station และช่องต่อสาย power
นอกจากนี้ยังมีช่องต่อสัญญาณ Audio พอร์ต HDMI, USB, mini-USB
และช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ
โดยทั้งหมดจะถูกซ่อนอยู่ภายในโดยมีฝาพับปิดอย่างเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม คาดว่า Toshiba SmartPad น่าจะมีเวอร์ชันที่เป็น Windows 7 ด้วย
เนื่องจากสตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์ได้เคยพูดถึงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ในส่วนของกำหนดการเปิดตัว SmartPad น่าจะเป็นช่วงตุลาคม ศกนี้
สนนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Seabreacher X

Seabreacher บริษัทที่สร้างเรือเร็วทีมีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร
ด้วยโมเดลใหม่คราวนี้เป็น Seabreacher X เรือเร็วที่มีดีไซน์น่าตืนเต้นยิ่งกว่า
เพราะมันมีลีลาเหมือน "ฉลามเหล็ก" ที่แสนดุดันท่ามกลางมหาสมุทร


Seabreacher X เรือเร็วสองที่นั่งลำนี้้มีกำลังวังชามากถึง 260 แรงม้า

สามารถซิ่งบนผิวน้ำได้ด้วยความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

และความเร็วจะลดลงครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

เมื่อดำอยู่ใต้ผิวน้ำ โดยโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเฉพาะส่วนที่เป็นกระโดงเท่านั้น

อย่างไรก็ดีด้วยความเร็วระดับนี้

Seabreacher X จะสามารถกระโดดพ้นน้ำขึ้นมาบนอากาศได้สูงถึง 12 ฟุต

ถ้าใครไม่รู้เห็นมันว่ายอยู่ในทะเลด้วยความเร็วระดับนี้

ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูกอย่างแน่นอน

สนนราคาของมันอยู่ที่ 100,000 เหรียญฯ (ประมาณ 34 ล้านบาท)

เอ้า...เศรษฐีท่านใดเงินเหลืออยากมีไว้ขับเล่นก็คลิกไปที่เว็บไซต์ Seabreacher






ข้อมูลจาก: toxel

เรื่องจริงของ MS ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน


ทราบไหมว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ MS-DOS เอง
แต่ได้ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ 86-DOS มาจากบริษัท Seattle Computer Products
ก่อนที่จะมาปัดฝุ่น
พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อโอเอสเป็นของตัวเอง...
เชื่อว่า คุณผู้อ่าน หลายๆ ท่านน่าจะไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน

นอกจากเรื่องของ MS-DOS ไม่ได้เป็นของไมโครซอฟท์มาตั้งแต่ต้นแล้ว
เมื่อพูดถึงไมโครซอฟท์ในโลกออนไลน์ คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึง Hotmail หรือ Bing
แต่ความจริงคือ ไมโครซอฟท์ถือสิทธิบัตรไว้มากกว่า 10,000 สิทธิบัตรเลยทีเดียว
(แถมจดเพิ่มทุกปีๆ ละ 3,000 สิทธิบัตร)


หรือเรื่องเล็กๆ อย่างชื่อบริษัทที่เดิมเขียนว่า Micro-Soft มียติภังค์ (hyphen) ตรงกลาง
ก็ถูกเอาออกไปตั้งแต่ปี 1976
ยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Microsoft อีกมากมาย
ลองดูจาก Infograph ของ Online MBA Program


Online MBA Programs
[Via: Online MBA Programs]

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

หุ่นยนต์ขาย "ไอศกรีม" ตามสั่ง

วันนี้มีหุ่นยนต์มาฝากกันอีกแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่จะน่ารักเท่านั้น

มันยังมาพร้อมกับความสามารถที่จะทำให้เด็กต้องชื่นชอบอีกด้วย

เพราะหุ่นยนต์ตัวที่ว่านี้มันสามารถขายไอศกรีมตามสั่งได้



อะไรจะดีไปกว่าการนำสิ่งของสองอย่างที่หลายคนชอบมาอยู่ด้วยกันนั่นก็คือ

หุ่นยนต์ที่น่ารักกับไอศกรีมแสนอร่อยYaskawa-kun (ยาสคาว่า คุง)

เป็นหุ่นยนต์ตัวใหม่ลาสุดที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถพิเศษ

ทั้งน่ารัก และทำไอศกรีมตามสั่งขายให้ลูกค้าได้ด้วย

ซึ่งตอนนี้ยาสคาว่า คุงกำลงขายไอศกรีมอยู่ที่ Tokyo Summerland

สวนน้ำขนาดใหญ่ (คล้ายสวนสยาม)

โดยจะเข้ามาแย่งงานของพนักงานที่เป็นคนอย่างเต็มตัวในวันที่ 22 สิงหาคม



สำหรับวิธีสั่งไอศกรีมก็ง่ายมาก โดยจะมีขั้นตอนการเลือกผ่านหน้าจอสัมผัสที่อยู่ด้านหน้า

ลูกค้าสามารถเลือกขนาดถ้วย ชนิดไอศกรีม ทอปปิ้งที่ต้องการ

เมื่อเลือกเสร็จแล้วก็ยืนยันคำสั่งด้วยการกดปุ่ม จ่ายตังค์

แล้วรอดูยาสคาว่า คุงทำไอศกรีมจนเสร็จแล้วยื่นส่งให้คุณทางช่องด้านหน้า


ความจริง Yaskawa-kun เป็นหุ่นยนต์ที่พัฒนาจากบริษัทผู้ผลิตแขนกล

และหุ่นยนต์ชื่อ Yaskawa (เข้าใจว่าน่าจะเป็นบริษัทเดียวกันกับที่

ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยนำมาให้บริการ) ร่วมกับธนาคารในญี่ปุ่น

และบริษัทเอเจนซี่โฆษณา โดยต้องการทดลองให้บริการด้วยหุ่นยนต์ตัวนี้

เพื่อสร้างโอกาสขายเวอร์ชันต่อๆ ไปในอนาคต






ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

Toshiba Libretto W100

โน้ตบุ๊คพันธุ์ใหม่ 2 จอสัมผัสมาแรงสุดๆ


หลังจากที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้สำหรับ Toshiba Libretto W100

โน้ตบุ๊ค 2 หน้าจอสัมผัสสามารถแปลงร่างเป็น"แท็บเล็ต"ใช้งานได้สารพัด

แถมยังใช้เป็นอีบุ๊คที่ดูเข้าท่าน่าใช้มากๆ อีกด้วย ล่าสุดได้มีการวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐ

ด้วยราคา 1,100 เหรียญฯ หรือประมาณ 35,000 บาท






แหล่งข่าวอ้างว่า สำหรับ Libretto W100 ทางโตชิบาได้ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด

โดยมันขาดตลาดในญี่ปุ่นหลังจากวางขายได้เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น

ในส่วนของสเป็กการทำงาน Libretto W100 ประกอบด้วย

โพรเซสเซอร์ Pentium U5400 ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็น Windows 7 Home Premium (32 บิต)

ชิปเซ็ต HD Graphic ของ Intel หน่วยความจำ DDR3 2GB และ SSD 62GB

แถมยังมีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 802.11b/g/n,

Bluetooth 2.1+EDR และเว็บแคม ทำงานด้วยแบตเตอรี่ 8 เซล

ความโดดเด่นของ Libretto W100 ก็คือ หน้าจอคู่แฝดขนาด 7 นิ้ว

ซึ่งเป็น WSVGA LCD สามารถทำงานร่วมกันได้ราวกับเนื้อเดียว

คุณสามารถใช้งานแบบโน้ตบุ๊คโดยใช้คีย์บอร์ดสเมือนบนหน้าจอ (Onscreen virtual keyboard)

หรือกางหน้าจอทั้งสองออก 180 องศา เพื่อใช้งานแบบแท็บเล็ตได้อีกด้วย...ว้าว!!!


ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Googleคลอดโปรแกรมสร้างแอพใช้เอง

กูเกิลคลอด "แอพอินเวนเตอร์" โปรแกรมที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นใช้งานด้วยตนเอง

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ว่าล่าสุด กูเกิล ค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ได้คิดค้นโปรแกรมที่ผู้ใช้บริการสามารถที่จะสร้างแอพพลิเคชั่นอย่างง่ายๆ ขึ้นใช้บนโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เองได้แล้ว








กูเกิลระบุว่า “แอพอินเวนเตอร์” หรือโปรแกรมสร้างแอพพลิเคชั่นนี้ จะทำให้การสร้างแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรม เนื่องจากแอพอินเวนเตอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นใช้งานเองได้ถึงแม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะไม่มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมเลยก็ตาม

การสร้างแอพพลิเคชั่นผ่านโปรแกรมแอพอินเวอนเตอร์ ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องรู้วิธีเขียนโปรแกรมด้วยรหัส หรือภาษาเขียนโปรแกรมแบบดั้งเดิม แต่สามารถสร้างแอพพลิเคชั่นได้จากการออกแบบอย่างง่ายๆ ผ่านการแสดงผลแบบบล็อก คล้ายกับตัวต่อเลโก้


ทั้งนี้ การสร้างแอพพลิเคชั่นด้วยโปรแกรมแอพอินเวนเตอร์นี้ยังเชื่อมต่อกับระบบจีพีอาร์เอส และระบบการเซ็นเซอร์ทิศทางการเคลื่อนไหวของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว เช่น แอพพลิเคชั่นระบุสถานที่จอดรถ หรือที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ หรือแอพพลิเคชั่นเกมที่ให้ผู้เล่นขยับโทรศัพท์มือถือเพื่อเลี้ยงลูกบอลในเขาวงกตได้อีกด้วย
(http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/โลกออนไลน์/38582/กูเกิลคลอดโปรแกรมสร้างแอพใช้เอง)

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

E-commerce คือ...

ถ้าจะกล่าวกันสั้นๆก็คือการทำ ”การค้า”ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ นั่นเอง โดยคำว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์ นั้นจะครอบคลุมตั้งแต่ ระดับเทคโนโลยีพื้นฐาน อาทิ โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ ไปจนถึงเทคโนโลยีที่มี ความซับซ้อนกว่านี้ แต่ว่าในปัจจุบันสื่อที่เป็นที่ นิยมและมีความแพร่หลายในการใช้งานคืออินเทอร์เน็ตและ มีการนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการทำการค้ามาก จนทำให้เมื่อพูดถึงเรื่อง พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คนส่วนใหญ่ จะเข้าใจไปว่าคือการทำการค้าผ่านอินเทอร์เน็ตนั่นเอง นอกจากนั้นปัจจุบันอาจได้ยินอีกหลายๆ คำ
อาทิ e-Business, e-Procurement, e-Readiness, e-Government ซึ่งล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ในการที่นำเอา เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้งาน




รูปแบบของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในการทำการค้านั้นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายก็คือผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายนั้น ก็มีหลายๆรูปแบบ ทำให้เราสามารถจัดประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C) คือการค้าระหว่างผู้ค้าโดยตรงถึงลูกค้าซึ่งก็คือผู้บริโภค เช่น การขายหนังสือ ขายวีดีโอ ขายซีดีเพลงเป็นต้น
ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B) คือการค้าระหว่างผู้ค้ากับลูกค้าเช่นกัน แต่ในที่นี้ลูกค้าจะเป็นในรูปแบบของผู้ประกอบการ ในที่นี้จะครอบคลุมถึงเรื่อง การขายส่ง การทำการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain Management) เป็นต้น ซึ่งจะมีความซับซ้อนในระดับต่างๆกันไป
ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C) ในเรื่องการติดต่อระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคนั้น มีหลายรูปแบบและวัตถุประสงค์ เช่นเพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ในกลุ่มคนที่มีการบริโภคเหมือนกัน หรืออาจจะทำการแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง ขายของมือสองเป็นต้น
ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G) คือ การประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ที่ใช้กันมากก็คือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ หรือที่เรียกว่า e-Government Procurement ในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว รัฐบาลจะทำการซื้อ/จัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นการประกาศจัดจ้างของภาครัฐในเว็บไซต์ www.mahadthai.com หรือการใช้งานระบบอีดีไอในพีธีการศุลกากรของกรมศุลฯ www.customs.go.th
ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C) ในที่นี้คงไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อการค้า แต่จะเป็นเรื่องการบริการของภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยเองก็มีให้บริการแล้วหลายหน่วยงาน เช่นการคำนวณและเสียภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต, การให้บริการข้อมูลประชาชนผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น เช่นข้อมูลการติดต่อการทำทะเบียนต่างๆของกระทรวงมหาดไทย ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างในการทำเรื่องนั้นๆ และสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มบางอย่างจากบนเว็บไซต์ได้ด้วย



รูปแสดงตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่าง B2B, B2C


จากรูปจะเห็นว่า บริษัท ก.ยนต์การ เชื่อมต่อระบบสำนักงานส่วนหลังกับ ส.ชิ้นส่วนยนต์ ซึ่งถือเป็น Supplier ซื้อชิ้นส่วนมาผลิตต่อและเชื่อมต่อกับบริษัทผลิตรถยนไทย จำกัด ซึ่งจัดเป็นลูกค้าซื้อชิ้นส่วนต่อจาก ก.ยนต์การ นำไปใช้ประกอบในสินค้าของบริษัทผลิตรถไทย(ส่วนนี้จัดเป็น B2B) และในขณะเดียวกัน ก.ยนต์การ ก็ได้นำชิ้นส่วนบางส่วนมาใช้ในการผลิตสินค้าจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อยพร้อมกันด้วย ผ่านทางเว็บไซต์ ของบริษัท(ส่วนนี้จัดเป็น B2C)

จากการที่แบ่งประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ออกเป็นประเภทตามข้างบนนั้น ดังนั้นทำให้สามารถจัดประเภทของช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างสองฝ่าย ออกได้เป็น 3 ช่องทางคือ
1.การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล ในที่นี้บุคคลจะหมายถึงทั้งองค์กร บริษัท และตัวบุคคล การติดต่อนั้นทำผ่านได้ทั้ง รูปแบบของโทรศัพท์ โทรสาร และอีเมล์
2.การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับระบบคอมพิวเตอร์ และระหว่างระบบคอมพิวเตอร์กับบุคคล คือการใช้งานระบบอัตโนมัติในการติดต่อสื่อสารนั่นเอง เช่น ตู้ ATM ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ระบบ FAX Back ระบบส่งอีเมล์อัตโนมัติ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ
3.การติดต่อระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เป็นรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ในการติดต่อทางธุรกิจ โดยการให้ระบบคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตามข้อกำหนดที่ได้ทำการตกลงร่วมกันไว้ อาทิ อีดีไอ ระบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น


ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

จากที่ผ่านมานั้นจะพบว่าจะมีข้อที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ผลิตอยู่ 3 ประเด็นคือ

ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดค่าใช้จ่ายบุคลากรบางส่วน ลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อแบบเดิมๆ
ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก (หมายความว่าต้องสร้างเว็บไซต์ให้มีข้อมูลเป็นภาษาสากลหรือภาษาที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราใช้มากๆ เช่นภาษาจีน ญี่ปุ่น เป็นต้น)
ไม่มีข้อจำกัด้านเวลา สามารถทำการค้าได้ 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านระบบอัตโนมัติ

ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ/ผู้บริโภค
-หาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบเรื่องราคา คุณภาพสินค้าและข้อมูลอื่นๆเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ
-อินเทอร์เน็ตมีประโยชน์มากในเรื่องนี้ สามารถเข้าไปในเว็บบอร์ดต่างในการหาข้อมูลได้ง่าย
-มีร้านค้าให้เลือกมากขึ้น
-เพียงแค่พิมพ์คีย์เวิร์ดลงในเครื่องมือค้นหาก็มีสินค้าออกมาให้เลือกมากมาย
-ได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่ซื้อสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เพราะสามารถได้รับสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เลย
-สินค้าบางอย่างสามารถลดพ่อค้าคนกลางได้ ทำให้ได้ราคาที่ถูกลง คงไม่ใช่กับทุกสินค้าหรือทุกผู้ผลิตที่มีความต้องการมาทำการขายเอง อาจจะได้กับสินค้าบางชนิด
ประโยชน์สำหรับผู้ผลิตและผู้ขาย
-ลดความผิดพลาดในการสื่อสาร จากเดิมที่ในการค้าต้องส่งแฟกซ์ หรือบางทีบอกจดทางโทรศัพท์ รับใบคำสั่งซื้อแล้วมาคีย์เข้าระบบ ถ้าสามารถทำการติดต่อกันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ส่งข้อมูลกันได้เลยจะช่วยลดความผิดพลาดในส่วนนี้ไปได้
-ลดเวลาในการผลิต นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการคำนวณเรื่องความต้องการวัตถุดิบ การทำคำสั่งซื้อวัตถุดิบ
-เพิ่มประสิทธิภาพในระบบสำนักงานส่วนหลัง
-เปิดตลาดใหม่ หาคู่ค้า ซัพพลายเออร์รายใหม่
-เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลัง
-เพิ่มความสัมพันธ์กับคู่ค้าให้ดีขึ้น
-สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเว็บไซต์ของบริษัท โดยการสร้างข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า การให้บริการหลังการขายให้คำปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ หรือการแก้ไขเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว